กิตติศัพท์ของคำว่า “Superfood” นั้นพูดถึงวัตถุดิบอันเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการ ที่ว่ากันว่าสร้างคุณประโยชน์ให้กับสุขภาพร่างกายของเรามากมายหลายประการ รายการอาหารที่จัดว่าเป็น Superfood มีตั้งแต่วัตถุดิบที่แปลกประหลาดและหาได้ยากอย่าง สาหร่ายเกลียวทอง หรือ สาหร่ายสไปรูลิน่า, เกสรผึ้ง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าคุณกำลังมองหาสุดยอดอาหารแบบง่ายๆ ที่สามารถหาได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอยู่ล่ะก็ นี่คือตัวเลือก 7 อย่างสำหรับคุณ
1. บรอกโคลี
ในโลกของผักสีเขียว บรอกโคลีครองตำแหน่งหนึ่งในผักที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด ที่มนุษย์เราจะหามาได้ เจ้าผักที่ดูเหมือนต้นไม้ต้นจิ๋วนี้อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ และเชื่อกันว่า สามารถช่วยขจัดเซลล์มะเร็งได้ จากการศึกษาได้เผยให้เห็นอีกว่า การบริโภคพืชตระกูลกะหล่ำ (บรอกโคลี, กระหล่ำดอก, ผักคะน้า (Kale) ฯลฯ) สามารถลดอัตราเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหัวใจได้อีกด้วย รสขมเล็กน้อยของบรอกโคลีนั้นเกิดจากสารพฤกษเคมีที่รู้จักกันในชื่อ สารซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งช่วยล้างมลพิษที่มีอยู่ในอากาศ เช่น ควันบุหรี่ และมลภาวะอากาศอื่นๆ นั้นทำให้บรอกโคลีถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งในลิสต์สุดยอดอาหารของเรา ลองสูตรนี้เลย!
2. ข้าวกล้อง
จะมีอะไรที่ดีไปกว่า การเอาสุดยอดอาหารมารวมไว้ และทำให้มันเป็นส่วนสำคัญในมื้ออาหารของคุณได้ทุกวัน ข้าวกล้องจัดเป็นยอดอาหารจานหลักที่หาได้ง่าย ด้วยแร่ธาตุหลักที่แน่นอัดอย่างแมงกานีส ข้าวกล้องหนึ่งถ้วยจึงประกอบไปด้วยแร่ธาตุมากกว่า 80% ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน แมงกานีสมีส่วนช่วยหลักๆ สองเรื่อ คือ สร้างพลังงานจากโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ในขณะเดียวกันก็ยังปกป้องไม่ให้เกิดความเสียหายใดๆ จากอนุมูลอิสระระหว่างกระบวนการนั้น ช้าวกล้องยังประกอบไปด้วย วิตามิน, แร่ธาตุ, เส้นใยอาหาร และ กรดไขมันจำนวนมาก
3. ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตถูกจัดอยู่ในพืชประเภทธัญพืช มีอีกชื่อหนึ่งว่า Avena Sativa เช่นเดียวกับอาหารจำพวกพืชอื่นๆ มันมาพร้อมกับคุณประโยชน์ต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย พวกมันคือแหล่งกำเนิดโปรตีนจากพืชที่ยอดเยี่ยม ( ประมาณ 10 กรัม ต่อข้าวโอ๊ตครึ่งถ้วย) ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และยังประกอบไปด้วยเบต้ากลูแคนจำนวนมาก (ซึ่งหมายถึงมันช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล โดยการป้องกันการดูดซึมไขมันจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย) ถ้าคุณกำลังมองหาสูตรอาหารจากข้าวโอ๊ต นี่คือสูตรสำหรับคุณ
4. โยเกิร์ต
อย่าเพิ่งเหมารวมว่าแบคทีเรียไม่ดีไปซะหมด เพราะว่าจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในโยเกิร์ตนั้นมีประโยขน์และล้วนไม่เป็นอันตราย เป็นที่รู้กันดีว่าโยเกิร์ตเป็นแหล่งรวมของโพรไบโอติก (Probiotic) เกิดจากการหมักของจุลินทรีย์ในนม กระบวนการหมักนี้ทำให้เกิดจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส ( Lactobacillus) จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าช่วยลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายในกระบวนการย่อยอาหาร และมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง ในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาสมดุลค่ากรด – ด่างในร่างกายของเรา
Tip : เมื่อต้องการเพิ่มโยเกิร์ตแบบไหนเข้าไปในมื้ออาหาร ให้เลือกแบบที่ปราศจากน้ำตาล หรือสารปรุงแต่งอื่นใดที่ไม่จำเป็น
5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
แม้ว่าเบอร์รี่ที่แตกต่างกันจะมีคุณสมบัติทางโภชนาการที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็พูดได้เลยว่าเบอร์รี่ทุกชนิดล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น แครนเบอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารโปรแอนโธไซนานิตินส์ (Proanthocyanidins) เป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง มีส่วนช่วยบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะ และสุขภาพหัวใจ ในขณะที่เชอร์รี่และองุ่นประกอบไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนการต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกทำร้าย และยังช่วยบำรุงสมองอีกด้วย นอกจากรสอร่อยแล้ว เบอร์รี่ที่มาในขนาดพอดีคำ ยังทำให้มันกลายเป็นสุดยอดอาหารที่เหมาะกับการเป็นของว่างสำหรับทุกคน ทุกวัย.
6. ชาเขียว
เหมือนกับการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม ข้อดีของการ “Going Green” ยังใช้ได้ในบริบทของการเลือกบริโภคชา ในกรณีนี้ ชาเขียวคือต้นกำเนิดของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่รู้จักกันในนามคาเทซิน (Catechin) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับเซลล์ และ DNA ในร่างกาย ในงานวิจัยเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของชาเขียวยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นยากระตุ้นอ่อนๆ ซึ่งช่วยยับยั้งการก่อตัวของเนื้อเยื่ออันเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ ประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ ของชาเขียว ยังรวมถึงการเพิ่มอัตราการเผาผลาญ สำหรับผู้ที่ต้องการลด หรือควบคุมน้ำหนัก คุณสามารถทานชาเขียวพร้อมกับไอศครีมแบบนี้ก็ได้นะ
7. เห็ด
เห็ดอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือวัตถุดิบที่ฟังดูน่าตื่นเต้นที่สุดในบรรดาสุดยอดอาหาร แต่พวกมันก็คู่ควรแก่การกล่าวถึงในรายชื่ออาหารของเรา เห็ดแทบจะไม่มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอลอยู่เลย แถมยังไม่มีกลูเตน ส่วนไขมัน น้ำตาล โซเดียม และแคลอรี่ก็มีอยู่เพียงเล็กน้อย อีกแง่หนึ่งเห็ดนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน D ,ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ (เป็นสารซีลีเนียม และกลูตาไธโอนเสียส่วนมาก) ช่วยชะลออาการแก่ก่อนวัยทั้งภายนอกและภายใน เห็ดจึงเป็นอาหารที่ทำให้คุณดูดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลองผสมเห็ดลงในมื้ออาหารของคุณตามสูตรนี้ดูสิ